ป้ายกำกับ

BigPay เลือก Thredd เป็นแพลตฟอร์มขับเคลื่อนบริการชำระเงิน เพื่อบุกตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

BigPay เลือก Thredd เป็นแพลตฟอร์มขับเคลื่อนบริการชำระเงิน เพื่อบุกตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้





● BigPay มีแผนขยายธุรกิจสู่ประเทศไทย เน้นการให้บริการภาคอุตสาหรรมท่องเที่ยวในอาเซียน

● Thredd เป็นผู้ให้บริการด้านฟินเทคที่ได้รับการยอมรับจากตลาดในเอเชียแปซิฟิกต

ลอดปี 2023 โดยมีอัตราการเติบโตทางรายได้ที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากความต้องการเทคโนโลยีการชำระเงินในด้านการชำระเงินแบบดิจิทัลที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด

● โดยคาดการณ์ว่าบริษัทจะปลดล็อกเป้ารายได้ถึง 242 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั่วเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2025 ในธุรกิจขนาดเล็ก (SMBs) และกลุ่มตลาดผู้บริโภครายบุคคล (consumer segments)



17 ตุลาคม 2566 – BigPay บริษัทฟินเทคซึ่งเป็นผู้พัฒนาแอปบริการทางการเงินชั้นนำจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เลือกแพลตฟอร์มผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ยุคใหม่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว Thredd เพื่อขับเคลื่อนขีดความสามารถในการชำระเงิน โดยมีแผนขยายธุรกิจของ BigPay ในประเทศไทยและขยายสู่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ในต้นปี 2024

ปัจจุบัน BigPay เป็นผู้ให้บริการด้านฟินเทคแบบครบวงจรทั้งในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์และมีผู้ใช้งานบัตรมากกว่า 1.4 ล้านคน ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ การชำระเงินการโอนเงินระหว่างประเทศ การประกันภัยรายย่อย สินเชื่อส่วนบุคคล การวิเคราะห์การใช้จ่าย โดยมีเป้าหมายยกระดับบริการด้านการเงินแก่ผู้ใช้งานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านทุกๆการทำธุรกรรม BigPay ยังมีคุณสมบัติ ที่สนับสนุนพฤติกรรมการออมผ่านการตั้งเป้าหมายการออมเงิน และช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับบริการด้านการเงินได้ดียิ่งขึ้นผ่านการช่วยเก็บเงินโดยการปัดเศษเงินทอนของการทำธุรกรรมในแต่ละรายการนอกเหนือจากแผนการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคแล้ว BigPay ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ airasia superapp เพื่อเพิ่มฟีเจอร์การชำระเงินสำหรับการจองการเดินทางบนแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย ผลิตภัณฑ์ของ BigPay จะได้รับการปรับแต่ง ติดตั้งและพร้อมใช้งานอย่างสมบูรณ์ผ่านแอปพลิเคชั่น airasia superapp เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินผ่าน BigPay เพื่อจองเที่ยวบิน โรงแรมและอื่นๆ ได้อย่างสะดวกหลังจากเชื่อมโยงบัญชีแล้ว

“เนื่องจากเรามีแผนเตรียมนำ BigPay เข้าสู่ตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจึงต้องการพันธมิตรทางเทคโนโลยีการชำระเงินที่เข้าใจดีเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินดิจิทัลและความซับซ้อนของภูมิภาคนี้” มิเทอพอล สินหนุ - กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ BigPay กล่าวว่า “เทคโนโลยีการชำระเงินออนไลน์ของ Thredd มีชื่อเสียงในด้านความน่าเชื่อถือและความยืดหยุ่น รวมทั้งมีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่เสมอ เช่น generative AI จึงนับเป็นสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง พวกเขาเป็นที่รู้จักในภูมิภาคเอเชียในฐานะผู้เชี่ยวชาญการขับเคลื่อนบริการทางการเงินแบบบูรณาการ หรือ ภายใต้ระบบนิเวศทางการเงินแบบใหม่ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่าง BigPay”


การผนึกกำลังทางการเงินครั้งนี้คาดว่าจะปลดล็อกรายได้เป็นมูลค่าถึง 242 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 ในธุรกิจขนาดเล็ก (SMBs) และกลุ่มตลาดผู้บริโภครายบุคคล (consumer segments) แดเมียน กอฟ - ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก Thredd กล่าวว่า โซลูชัน อย่าง BigPay เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลนี้ ในการนำนวัตกรรมใหม่เข้าสู่ระบบบริการทางการเงินที่เชื่อมโยงและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกคน

เราตั้งตารอที่จะบูรณาการเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ Thredd เข้ากับแพลตฟอร์มที่เป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตอย่าง BigPay เพื่อผนึกกำลังกันพร้อมรับการขยายตัวทั่วทั้งภูมิภาค 

Thredd เติบโตเป็นประวัติการณ์ทั่วเอเชียแปซิฟิกตลอดปี 2023 จนถึงปัจจุบันมีการดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จทั้งในออสเตรเลีย ฮ่องกง นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยการขับเคลื่อนผ่านโปรแกรมและบริการบัตรที่ให้บริการลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาค Thredd ครอบคลุมบริการในด้านการเงินที่สำคัญ การจัดการค่าใช้จ่ายขององค์กร และการให้บริการบนมาร์เก็ตเพลสต่างๆ ผ่านการให้บริการลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกจากสำนักงานในสิงคโปร์และออสเตรเลีย


===================================


BigPay เป็นบริษัทฟินเทคชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยมุ่งมั่นที่จะให้บริการทางการเงินที่มีความจำเป็นต่อชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โดยเน้นการให้บริการทางการเงินดิจิทัลที่เข้าถึงได้ โปร่งใส ใช้งานง่ายและปลอดภัย ตั้งแต่การชำระเงินข้ามพรมแดน การชำระเงินภายในประเทศไปจนถึงการโอนเงินระหว่างประเทศ เครดิต การประกันภัยรายย่อย สินเชื่อส่วนบุคคล และการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายที่ชาญฉลาด เรายังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับชีวิตผู้คนชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการทำธุรกรรมการเงินในแต่ละครั้ง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://bigpayme.com/
BigPay เป็นบริษัทหนึ่งภายใต้ MOVE Digital ซึ่งเป็นหน่วยงานดิจิทัลของ Capital A Berhad เช่นเดียวกับ airasia MOVE (เดิมชื่อ airasia Superapp)
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ press@bigpayme.com

Samsung เปิดตัวมือถือน้องเล็กสเปกคุ้ม ราคาโดนใจ Galaxy A05 และ A05s


Samsung เปิดตัวมือถือน้องเล็ก Samsung Galaxy A05 และ A05s ที่มาพร้อมกับขนาดหน้าจอใหญ่เต็มตา 6.7 นิ้ว แบตเตอรี่จุใจ 5000 mAh ใช้งานได้ยาวตลอดวันแบบไม่ต้องคอยพกที่ชาร์จ ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,699 บาทเท่านั้น


DESIGN
Samsung Galaxy A05 และ A05s วางจำหน่าย 2 สี คือสีดำ และสีเงิน สำหรับดีไซน์ด้านหลังตัวเครื่องแบบให้ความเรียบหรู มีระดับมากขึ้นจาก A04 และ A04s ด้วยฝาหลังที่ไม่โค้งจับถนัดมือมากขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนราวกับใช้มือถือในระดับราคาหมื่นต้นๆ A05 มากับวัสดุฝาหลังกระจกทำให้เห็นรอยนิ้วมือได้ง่ายกว่าหากตัวเครื่องสีดำ ต่างกับ A05s ที่วัสดุฝาหลังเป็นเนื้อผิวแมต อาจจะทิ้งรอยนิ้วมือให้เห็นบ้างแต่น้อย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้


ทั้ง Samsung Galaxy A05 และ A05s มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นกว่า A04 และ A04s โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมกันขนาดหน้าจอแสดงผล 6.7 นิ้วแบบ Infinity-U Display


CHIPSET
Samsung Galaxy A05 และ A05s มาพร้อมกับ ชิปเซ็ตตัวใหม่ที่ให้ความแรงมากขึ้น โดย A05s จะมาพร้อมกับชิปเซ็ต SM6225 ที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อน 88% CPU และ 97% GPU ส่วนน้องเล็ก A05 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Helio G85 ให้ประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นเดิม 83% CPU และ 224% GPU


RAM & ROM
ไม่ต้องกังวลว่ารุ่นเล็กจะมี RAM น้อย หรือความจุใช้งานไม่พอ Samsung Galaxy A05s มาพร้อมกับความจุ 128GB และ RAM สูงถึง 6GB และ A05 มาพร้อมกับความจุ 64 และ 128GB RAM 4GB โยทั้งสองรุ่นยังรองรับ RAM Plus สามารถนำความจุของตัวเครื่องมาใช้เป็น RAM เหมือนรุ่นพี่ๆเรือธง อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความจุได้ด้วย Micro SD สูงสุดถึง 1TB


CAMERA
น้องเล็กทั้งสอง ยังมาพร้อมกับกล้องหลัง 2 ตัวในรุ่น A05 และ กล้องหลัง 3 ตัวในรุ่น A05s โดยมีกล้องหลักความละเอียดที่ 50 MP ในส่วนของกล้องสิ่งที่เปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดคือความละเอียดของกล้องหน้าที่เพิ่มขึ้นจาก 5MP ในรุ่น A04 เป็น 8MP ในรุ่น A05 และเพิ่มขึ้นจาก 5MP ในรุ่น A04s เป็น 13MP ในรุ่น A05s ทำให้สามารถถ่ายรูปเซลฟี่ได้คมชัด สีสวยสดมากกว่าเดิม


สำหรับคนที่มองหามือถือสักเครื่องราคาประหยัด จอใหญ่เต็มตา แบตอึด A05 และ A05s เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ โดย Samsung Galaxy A05 จะวางจำหน่ายในราคา 3,699 บาทสำหรับรุ่นความจุ 64GB และ 4,299 บาทในรุ่นความจุ 128GB ส่วน Samsung Galaxy A05s จะวางจำหน่ายในราคา 5,499 บาท เท่านั้น








######################################################

สรุป Spec Samsung Galaxy A05

Display        : PLS LCD 60Hz 6.7 นิ้ว, HD+

CPU            : Helio G85

RAM            : 4GB

ROM            : 64/128GB, Micro SD up to 1TB

กล้อง            : กล้องหลัง 2 ตัว 50MP, Depth 2MP

                     : กล้องหน้า 8MP

ระบบความปลอดภัย  : แสกนหน้า

แบตเตอรี่       : 5,000mAh, Fast Charge 25W

สรุป Spec Samsung Galaxy A05s

Display        : PLS LCD 90Hz 6.7 นิ้ว, FHD+

CPU            : SND680

RAM            : 6GB

ROM            : 128GB, Micro SD up to 1TB

กล้อง            : กล้องหลัง 3 ตัว 50MP, Depth 2MP, Macro 2MP

ระบบความปลอดภัย  : แสกนหน้า, แสกนลายนิ้วมือ

แบตเตอรี่       : 5,000mAh, Fast Charge 25W

HUAWEI หัวเว่ยฉลองชัยชนะของทีมนักศึกษาไทย ในพิธีมอบรางวัลการแข่งขันด้านไอซีที ประจําปี 2565-2566



 HUAWEI หัวเว่ยฉลองชัยชนะของทีมนักศึกษาไทย ในพิธีมอบรางวัลการแข่งขันด้านไอซีที ประจําปี 2565-2566 ทีมจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังคว้าชัยชนะเลิศระดับประเทศ


กรุงเทพฯ, 31 สิงหาคม 2566 – บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด จัดพิธีปิดการแข่งขัน ICT Competition 2022-2023 พร้อมจัดงานประชุมวิชาการด้านไอซีที (ICT Academy Instructor Conference) เป็น และความร่วมมือในโครงการริเริ่มต่าง ๆ เพื่อ ครั้งแรกเพื่อรับรองและเป็นเกียรติแก่มหาวิทยาลัยพันธมิตรกับหัวเว่ย บ่มเพาะนักศึกษาที่มีศักยภาพ ภายในงานซึ่งมีการถ่ายทอดสด ได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารหัวเว่ย และทีม นักศึกษาไทยที่ชนะการแข่งขัน ตลอดจนผู้แทนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และมหาวิทยาลัยพันธมิตร ของหัวเว่ยเข้าร่วมด้วย 




การแข่งขันในปีนี้แบ่งเป็นสองประเภท คือ คลาวด์ และ เน็ตเวิร์ค โดยมีนักศึกษารวม 18 คน 6 ทีมที่ได้รับรางวัล หลังจากการแข่งขันในรอบต่าง ๆ พร้อมกิจกรรมเสริมการเรียนรู้อันหลากห ากหลาย ทีมจากคณะวิทยาศาสตร์ สถาบัน เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังก็คว้าชัยในการแข่งขันประเภทคลาวด์ โดยมีทีมจากคณะเทคโนโลยี สารสนเทศ สถาบันเดียวกัน ครองตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับอันดับหนึ่ง และทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ครองตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับสองของประเภทคลาวด์ อีกด้วย สำหรับประเภทเครือข่าย ทีมจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังคว้าชัย ชนะเลิศไปเช่นเดียวกัน โดยมีทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ หนึ่ง และทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง


ซึ่งทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ยังได้รับประสบการณ์ที่เพิ่มพูนทักษะทางเทคนิคให้กับผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ในงานนี้ หัวเว่ยยังได้มอบทุนการศึกษาและรางวัล รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท รวมไปถึงอุปกรณ์อันทันสมัยเพื่อ ประโยชน์ในการศึกษาของนักศึกษา และได้รับโอกาสพิเศษเข้าฝึกงานกับหัวเว่ยให้แก่ทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันอีกด้วย ซึ่งจะทำให้นักศึกษาได้สัมผัสประสบการณ์ตรงทางด้านอุตสาหกรรม และผลักดันให้นักศึกษาแสวงหาโอกาสต่อยอด อีกมากมายในยุคดิจิทัล นอกจากนี้ หัวเว่ยยังร่วมกับคณาจารย์ทางวิชาการด้านไอซีทีในมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมการ แข่งขัน เพื่อแนะแนวทางแก่นิสิตนักศึกษาในการประกอบอาชีพอย่างประสบความสำเร็จ รวมทั้งให้ข้อมูลข่าวสาร การจัดงาน การฝึกอบรม และการแข่งขันต่าง ๆ ในอนาคต นายเจย์ เฉิน ประธานคณะกรรมการหัวเว่ย ประเทศไทย ได้กล่าวในงานว่า “ในประเทศไทย มีคำกล่าวว่า บุคคล หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดริเริ่มพัฒนาทักษะบุคลากรของหัวเว่ย ผมเชื่อมั่นว่า ด้วย ความพยายามร่วมกัน เราสามารถช่วยอุดช่องว่างและสร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับความสำคัญในการเชื่อมโยงเทคโนโลยี กับการศึกษาและพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพควบคู่กันไป





นายปริวรรต วงษ์สำราญ - ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมและศูนย์วิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย (Startup Thailand Center) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลต่อการขาดแคลนบุคลากร รวมไปถึงผู้ประกอบการนวัตกรรมที่มีทักษะในประเทศไทย ทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติจึงต้องให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะและความรู้ทางดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับคนรุ่น ต่อไป เพื่อให้พวกเขามีความพร้อมที่จะช่วยสร้างและส่งต่อด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ หัวเว่ย ซึ่งเป็นพันธมิตรภาคเอกชนที่สำคัญก็ได้สนับสนุนการสร้างสรรค์สรรพกำลังด้านบุคลากรที่มีทักษะทางไอซีทีอย่าง ต่อเนื่อง และเราก็ได้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อบ่มเพาะผู้ประกอบการและบุคลากรที่มีศักยภาพด้านดิจิทัล เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2565 หัวเว่ย ประเทศไทย ร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) จัดทำเอกสารแม่บท (white paper) เรื่องการพัฒนาทักษะบุคลากรด้าน ดิจิทัลแห่งชาติของประเทศไทย (Thailand's National Digital Talent Development) ซึ่งระบุถึงความท้าทายหลัก 11 ข้อ และข้อเสนอแนะด้านนโยบาย 5 ข้อ ตามเอกสารดังกล่าว เศรษฐกิจดิจิทัลจะเพิ่มสัดส่วนเป็นร้อยละ 30 ของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย (GDP) ภายในปี 2570 หัวเว่ยจึงได้ขยายขอบเขตการแข่งขันปีนี้ และเพิ่ม ทุนการศึกษาให้แก่ทีมผู้ชนะ เพื่อให้สอดรับกับคำมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาทักษะบุคลากรด้านไอซีทีในไทย




ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้มีการฝึกอบรมบุคลากรที่มีศักยภาพทางดิจิทัลสำเร็จหลักสูตรกว่า 70,000 คนใน ประเทศไทย นับเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ทำให้ได้รับรางวัล Prime Minister Award ด้าน “สุดยอดองค์กรดีเด่นด้าน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” (Best Contributor in Human Capital Development) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตามกลยุทธ์การพัฒนาศักยภาพทางดิจิทัลปี 2566 หัวเว่ยได้กำหนดเสาหลักการพัฒนาศักยภาพทางดิจิทัลสามประการ สำคัญ ได้แก่ ภาวะผู้นำ (Leadership), องค์ความรู้และทักษะ (Knowledge and Skills), และวิชาชีพและอาชีพ (Profession and Vocation) ในพิธีมอบรางวัลนี้ หัวเว่ยและพันธมิตรยังได้แถลงเกี่ยวกับโครงการพัฒนาบุคลากรที่มี ศักยภาพอีกหลายโครงการสำหรับประเทศไทย ทั้งที่อยู่ระหว่างดำเนินการและโครงการในอนาคต ซึ่งจะช่วยต่อยอด ยุทธศาสตร์ใหม่เหล่านี้ในการยกระดับแรงงานดิจิทัลในอนาคตของประเทศไทยให้สูงขึ้น การแข่งขัน ICT Competition เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2558 ในฐานะโครงการความร่วมมือริเริ่มภายใต้ Huawei ICT Academy ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับองค์กร (school-enterprise project) ที่หัวเว่ยจัดขึ้น โดยมี วัตถุประสงค์ในการเสริมทัพบุคลากรที่มีทักษะด้านไอซีทีด้วยผู้ประกอบวิชาชีพที่มีคุณภาพระดับสูง ผ่านความร่วมมือ กับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ 37 แห่งในประเทศไทย ในการประชุม Instructor Conference นี้ หัวเว่ยได้กล่าวถึง ความจำเป็นในการแสวงหาความร่วมมือเพิ่มเติมระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และนักวิชาการเพื่อวาง แนวทางการฝึกอบรมทักษะทางดิจิทัลให้สอดคล้องกับความจำเป็นภาคอุตสาหกรรม และสร้างบุคลากรที่มีทักษะ รองรับอย่างมีประสิทธิผล ทั้งนี้ หัวเว่ยยังเชิญชวนให้มหาวิทยาลัยอื่นเข้าร่วมโครงการ เพื่อสร้างระบบนิเวศบุคลากรที่ มีศักยภาพแข็งแกร่งไว้รองรับความต้องการในยุคดิจิทัลในประเทศไทยต่อไป 



หัวเว่ย คือผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และสมาร์ทดีไวซ์ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2530 โดยหัวเว่ย มีพนักงานกว่า 207,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ให้บริการผู้คนมากกว่า 3,000 ล้านคนทั่วโลก วิสัยทัศน์และพันธกิจของหัวเว่ยคือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ข่าวประชาสัมพันธ์ วางรากฐานให้แก่โลกอัจฉริยะ หัวเว่ยได้ส่งมอบการประมวลผลคอมพิวเตอร์หลากหลายรูปแบบทุกที่ ทุกครัวเรือน และทุกองค์กรเพื่อ ทุกเวลาที่คุณต้องการ เพื่อนำ ทุกองค์กร ให้มีความ เทคโนโลยีคลาวด์และความอัจฉริยะเข้าสู่ทั่วทุกมุมโลก สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลที่จะช่วยทุกภาคอุตสาหกรรม ยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และมีพลวัตร รวมทั้งสร้างนิยามใหม่ให้แก่ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ด้วย AI เพื่อเสริมสร้างความ ชาญฉลาดและออกแบบให้ตอบรับกับความต้องการเฉพาะของผู้คนในทุกแง่มุมของชีวิต ทั้งการใช้ชีวิตที่บ้าน ระหว่างการเดินทาง ที่ ออฟฟิศ ในการสันทนาการ หรือแม้แต่ระหว่างการออกกำลัง

แนะนำ Smart Things Find แอพช่วยค้นหาโทรศัพท์และอุปกรณ์อื่นๆของ Samsung

 

Samsung นั้นมีระบบ Ecosystem ของตัวเอง ที่เรียกว่า Smart Things ซึ่งหลายๆคนอาจไม่ค่อยคุ้น เพราะไม่ค่อยถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเท่าไรนัก ยกเว้นผู้ที่สนใจและใช้งานผลิตภัณฑ์  Samsung  หลายอย่าง เช่นผลิตภัณฑ์ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ราคาค่อนข้างสูง


ระบบ Smart Things สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น เชื่อมต่อ ระหว่างอุปกรณ์ Samsung ภายในบ้าน สั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายๆอย่างในบ้าน 
แต่ที่เข้าถึงและน่าใช้งานมากที่สุดคือโทรศัพท์ หรือสมาร์ทโฟนที่เราๆใช้กันนี่แหละ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำข้อดีของ Smart Things เมื่อนำมาใช้กับโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ Samsung ที่มีการลงทะเบียนด้วย Samsung Account ไว้



ก่อนอื่น ถ้าเป็นตัวโทรศัพท์ ให้เข้าไปอณุญาตการค้นหาด้วย smart things ก่อน

โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า > ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว > ค้นหาโทรศัพท์ส่วนตัว > เปิดการทำงานทุกหัวข้อได้เลย  (ตามรูป)




หลังจากนั้น ให้เข้าไปที่เว็ป Smart Things Find (กดลิงก์ได้เลย) เพื่อเข้าไป login ด้วย email ที่ลงทะเบียนไว้กับ Samsung account หลังจากนั้นคุณจะเห็นแผนที่ และสัญลักษณ์ของโทรศัพท์ Samsung ที่ลงทะเบียนไว้  ส่วนฝั่งซ้ายจะเห็นลิสต์อุปกรณ์ที่คุณเคยลงทะเบียนไว้ด้วย Samsung account 




ส่วนฝั่งขวาของจอ คุณจะเห็นเมนูต่างๆที่เราสามารถกดสั่งผ่านไปยังตัวโทรศัพท์ของเราได้

เช่น Ring สั่งให้เครื่องเราส่งเสียง / ล็อก : สั่งล็อกเครื่อง / ติดตามตำแหน่ง / ลบข้อมูล / แบ็คอัพ / เรียกการโทรและข้อความ / ปลดล็อก / ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่


กรณีที่เราทำโทรศัพท์หาย เราสามารถสั่งให้เครื่องร้อง และ ล็อกเครื่องรวมถึงติดตามโทรศัพท์แบบเรียลไทม์ เราสามารถกดที่ ติดตามตำแหน่ง ได้เลย ระบบจะเก็บรายละเอียดตำแหน่งไว้ให้ถึง 7 วันเลยทีเดียว หรือหากเราจำรหัสปลดล็อกเครื่องไม่ได้ เราก็สามารถสั่งปลดล็อกจากตรงนี้ได้ โดยหากใช้ฟังก์ชันนี้ เราต้องเข้าไปยืนยัน email และรหัสของ samsung account ก่อน จึงจะปลดล็อกได้ และเมื่อปลดล็อกผ่านเมนูนี้ ข้อมูลล็อกหน้าจอทั้งหมด (รูปแบบ PIN รหัสผ่าน และข้อมูลชีวมาตร) บนโทรศัพท์จะถูกลบ คุณจะต้องเข้าไปตั้งค่าใหม่ทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง




อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจของส่วนนี้ก็คือ "การค้นหาออฟไลน์" 

ฟีเจอร์การค้นหาออฟไลน์นี้จะช่วยให้เราสามารถตามหาโทรศัพท์ซัมซุงที่ทำหาย แม้ว่าเครื่องนั้นจะไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ก็ตาม วิธีการคือจะใช้สมาร์ทโฟนซัมซุงของคนที่อยู่รอบๆทำหน้าที่เป็น 'Find Node' หรือ 'ช่วย' ที่จะร่วมค้นหาอุปกรณ์ Galaxy ของคุณ ทำการสแกนหาเครื่องที่ทำหาย ด้วยการส่งสัญญาณไปยังเชิร์ฟวอร์ที่แซร์ตำแหน่งของโทรศัพท์ที่หายไปของคุณ


โดยหากระบบตรวจจับได้ว่ามีโทรศัพท์ซัมซุงที่เปิดใช้ฟีเจอร์ การค้นหาออฟไลน์ หล่นอยู่ใกล้ๆและไม่ได้เปิดอินเทอร์เน็ตไว้ ก็จะส่งสัญญาณเตือนให้กับผู้ใช้มือถือ Galaxy ในบริเวณนั้นให้ทราบทันที รวมทั้งเรายังสามารถใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวในการค้นหานาฬิกา Galaxy Watch รวมถึงหูฟัง Galaxy Buds หากทำหายพร้อมกันได้อีกด้วย



อีกเมนูที่ถือเป็นตัวช่วยหากเราทำเครื่องหาย นั่นก็คือ "ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่"

เมนูยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ จะทำให้เครื่องเราเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน เพื่อไม่ให้โทรศัพท์เราดับไปก่อนที่จะหาเครื่องเจอ โดยเมื่อเปิดเมนูนี้ เครื่องจะปรับทุกอย่างเพื่อประหนัดแบตเตอรี่ของคุณอย่างที่สุด 




ดังนั้นเมื่อเราได้โทรศัพท์ Samsung มาใหม่ๆ หลังจากตั้งค่าเครื่องแล้ว อย่าลืมเข้าไปเปิดโหมดค้นหาอุปกรณ์เอาไว้ด้วยนะ เพื่อความปลอกดภัย เพราะเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอนะจ๊ะ


รีวิว Samsung Galaxy Z Flip5 สมาร์ทโฟนพับได้สายแฟ ที่กลับมาพร้อมกับจอหน้าใหญ่สะใจสาวก


สำหรับใครที่เป็นสาวกสมาร์ทโฟนสายแฟตัวแม่อย่าง Samsung Galaxy Z Flip น่าจะถูกใจกันอย่างมากกับ Samsung Galaxy Z Flip 5 รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 เพราะนอกจาก ความน่ารัก คิ้วท์ๆ ที่ยังคงอยู่ เพิ่มเติมคือการพับที่ปิดสนิทกว่าเดิม แถมจอหน้าก็ใหญ่เต็มตา รองรับการใช้งานได้หลากหลาย เรียกได้ว่า ถึงจะใจแข็งแค่ไหน ก็โดนตกได้ไม่ยากเลยหละครับ




ดีไซน์เดิม เพิ่มเติมที่พับสนิทกว่า

Samsung Galaxy z Flip5 ยังคงมากับรูปลักษณ์ภายนอกที่หากดูจากด้านหลังตัวเครื่องแล้ว ยังไงก็เหมือนเดิม แต่เมื่อพลิกเครื่องมาดูด้านหน้า จะพบกับความตื่นตาครั้งใหม่ กับหน้าจอรูปโฟลเดอร์ขนาดใหญ่ 3.4 นิ้ว แถมรุ่นนี้พับสนิทแล้วจ๊าาาา  เพราะซัมซุงเปลี่ยนมาใช้บานพับแบบใหม่ทรงหยดน้ำที่เรียกกว่า Flex Hinge ทำให้พับสนิทแบบที่ ส่องยังไงก็ไม่เห็นแสงรอด นอกจากนี้ตัวเครื่องยังคงรองรับการกันน้ำระดับ IPX8 รวมถึงยังใส่ Flex Mode ที่องศาการกาง 75-115 องศามาให้เหมือนเดิม






จอนอกใหญ่ขึ้น ก็ทำอะไรได้เยอะขึ้น

ใครที่เคยใช้ Samsung Galaxy Z Flip4 มาก่อนจะรู้ว่าจอนอกที่ให้มานั้น ทำอะไรแทบจะไม่ได้เลย แต่รอบนี้ Samsung Galaxy z Flip5 มาพร้อมกับจอขนาดใหญ่ที่มี UI รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Widgets ต่างๆ โดยการใช้นิ้วปัดซ้ายขวา หรือ ใช้จีบนิ้วเข้าหากันเพื่อทำการปรับเปลี่ยน Widgets ก็ทำได้ง่ายๆ รวมถึงยังรองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวม 11 แอพพลิเคชั่น ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Netflix, Google Maps, Line, Samsung Message, Google Message, Kakao Talk, WeChat, Whatsapp, Naver Map, Spotify.



Samsung Galaxy z Flip5 มี Unique Flip Face ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าจอหลัก เปลี่ยนธีม แสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ เปลี่ยนรูปแบบนาฬิกา รวมถึงยังสามารถใส่รูปที่เราต้องการ แม้แต่ใส่ไฟล์วิดีโอก็สามารถทำได้



Good Lock

นอกเหนือจากแอพที่ถูกใส่มาให้สามารถเล่นได้บนจอหน้าแล้ว เรายังสามารถเลือกเพิ่มแอพอื่นๆ ที่เราต้องการใช้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น แชต เกมส์ อีเมลล์ โดยขั้นตอนดังนี้
1. ดำเนินการโหลด
Good Lock จาก Galaxy Store
2. โหลด Plug-in ชื่อ MultiStar ผ่านแอพ Good Lock
3. E
nable Launcher โดยไปที่ Setting >>> Cover Screen >>> Widgets
4. เลือกเพิ่มแอพที่ต้องการใช้ผ่านจอหน้าได้เลย



Dex Mode

ตามที่เคยมีข่าวลือว่า Samsung Galaxy z Flip5 จะมาพร้อมกับ Dex Mode นั้น สรุปว่า ไม่เป็นความจริง แต่ก็มาพร้อมกับพอร์ต USB-C 3.2 ทำให้สามารถเชื่อมต่อเพื่อส่งภาพจากมือถือขึ้นไปบนจอได้




กล้อง

สำหรับรายละเอียดของกล้อง ยังคงมาเหมือนเดิม คือ กล้องหลังความละเอียดอยู่ที่ 12MP และ Ultrawide 12MP ส่วนกล้องเซลฟี่มาด้วยความละเอียด 10MP อย่างไรก็ตามแม้จะสเปกกล้องเดิม แต่ด้วย AI ทำให้ภาพที่ได้ออกมาสวย และดีกว่าเดิม รวมถึงความสะดวกในการใช้กล้องหลักถ่ายเซลฟี่ เพราะเราสามารถมองจากจอหน้าได้นั่นเอง

จากจอหน้าที่ใหญ่ขึ้น ซัมซุงได้ใส่ Flex Camera Mode มาเพื่อทำให้การถ่ายรูปและวิดีโอเซลฟี่ ได้สะดวก และ ง่ายมากๆ 
โดยจะสามารถปรับได้ 4 แบบ คือ จับเวลาถ่ายรูป, ปรับอัตราส่วนภาพ, โหมดภาพเคลื่อนไหว Motion Photo, เปลี่ยนโทนสีภาพ (โทนธรรมชาติหรือโทนสีอุ่น) และการแตะจอเพื่อถ่ายภาพ





เรายังสามารถปัดซ้ายขวา เพื่อทำการเปลี่ยนจากการถ่ายรูป เป็นการถ่ายวิดีโอ หรือ การถ่ายบุคคล และยังสามารถซูมเข้าซูมออกโดยการจีบนิ้ว/ถ่างนิ้วบนจอหน้าได้อีกด้วย สามารถกดดูรูปที่ถ่ายแล้ว หากไม่ชอบ ก็สามารถกดลบได้จากจอหน้าเลย


สรุป Spec Samsung Galaxy Z Flip5

Display        : ด้านใน Dynamic AMOLED 2X 6.7 นิ้ว, Full HD+, Refresh Rate 1 – 120Hz.

                    : ด้านนอก AMOLED 3.4 นิ้ว, 748×720 Pixel, Refresh Rate 120Hz.

CPU            : Snapdragon 8 Gen 2

RAM            : 8GB

ROM            : 256GB / 512GB

กล้อง            : กล้องหลัง 2 ตัว 12MP (f/1.8) + OIS, Ultra Wide 12MP (f/2.2)

                    : กล้องเซลฟี่ 10MP (f/2.4)

การเชื่อมต่อ   : 5G, Wi-Fi, Bluetooth, NFC, USB Type C 3.2

ระบบความปลอดภัย  : สแกนลายนิ้วมือ, แสกนหน้า

แบตเตอรี่       : 3,700mAh, Fast Charge 25W, Wireless Charge 15W

กันน้ำ            : IPX8