ป้ายกำกับ

ซัมซุง เปิดตัวทีวี Neo QLED (นีโอ คิวแอลอีดี) มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Quantum Mini LED รุกตลาดทีวีพรีเมียมและไฮเอนด์

 

ซัมซุงส่ง Neo QLED รุกตลาดทีวีพรีเมียมและไฮเอนด์

ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าระดับบนเพิ่มเท่าตัว พร้อมส่งมอบทีวีก่อนอีเว้นท์กีฬาสำคัญปีนี้



-           ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งต่อเนื่องยาวนานกว่า 15 ปี ในตลาดทีวี[1] ซัมซุงเปิดตัวไลน์อัพทีวีระดับแฟลกชิป ‘Neo QLED’ ความคมชัด 8K และ 4K ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Quantum Mini LED ให้กำเนิดแสงและเงาสมบูรณ์แบบเนรมิตภาพสวยสมจริงที่สุดที่เคยมีมาบนทีวี QLED

-          เซกเมนต์พรีเมียมยังแข็งแกร่ง แม้มูลค่ารวมตลาดทีวีในประเทศจะลดลง เช่นเดียวกับเทรนด์ทีวีจอใหญ่ขนาด 75 นิ้วขึ้นไป ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ในขณะที่ช่องทางออนไลน์กลายเป็นแรงขับสำคัญกระตุ้นยอดขายในช่วงล็อกดาวน์

-          คาดการณ์ตลาดปีนี้โตขึ้น 10% จากปี 2020 โดยปัจจัยผลักดันที่สำคัญ คืออีเว้นท์กีฬาระดับโลก ทั้ง โอลิมปิกเกมส์ และฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซัมซุงมั่นใจสามารถส่งมอบทีวีให้ลูกค้าชาวไทย ไม่หวั่นผลกระทบปัญหาชิปขาดแคลน


ซัมซุง เปิดตัวทีวี Neo QLED (นีโอ คิวแอลอีดี) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมฉีกทุกขีดจำกัดแห่งความคมชัดและสร้างปรากฏการณ์ความสมบูรณ์แบบของการรับชม ผ่านนวัตกรรมทีวีแห่งอนาคตที่ยั่งยืนและสมาร์ทฟีเจอร์สำหรับทุกความต้องการในปัจจุบัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดทีวีระดับโลกต่อเนื่องยาวนานถึง 15 ปี ด้วยไลน์อัพทีวีที่เป็นมากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ยังช่วยยกระดับการใช้ชีวิต





 นางสาวเจนนิเฟอร์ ซอง ประธานธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและวิสัยทัศน์อันล้ำสมัย ซัมซุงได้ยกระดับมาตรฐานของนวัตกรรมทีวีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเรียนรู้ถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเพื่อให้ผู้ใช้ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านเทคโนโลยีที่เคยมี ทำให้ซัมซุงก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับ 1 เป็นปีที่ 15 อย่างแข็งแกร่ง

 

“กลุ่มสินค้าทีวีของซัมซุงในปีนี้ นำโดย Neo QLED คือ สิ่งที่เราได้พัฒนาเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตภายบ้านของคุณและครอบครัว เพื่อสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ที่ดีกว่าเดิม ตามวิสัยทัศน์ Better Normal for All นำเสนอนวัตกรรมแห่งอนาคต ที่มี AI เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เพราะนวัตกรรมของเราได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ประโยชน์จากทีวีอย่างเต็มที่ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ติดต่อสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น และยังเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ที่ดีที่สุด และยังคำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาว”

 

จากผลสำรวจของ Nielsen พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มในการใช้ทีวีเพื่อหลากหลายจุดประสงค์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับชมข่าวสาร ฟังพอดแคสต์ หรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทีวี[2] นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้งานทีวีที่เพิ่มขึ้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้สถานการณ์ในหลายประเทศจะเริ่มผ่อนคลายลง[3] กิจกรรมอย่างโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์เติมโตสูงสุดในรอบ ปี[4] แสดงถึงความคาดหวังของผู้บริโภคให้ทีวีภายในบ้านมีคุณภาพของภาพและเสียงเทียบเท่าโรงภาพยนตร์

 

นายสุวิณ โกษีอำนวย ผู้อำนวยการ ธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด  กล่าวถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงและส่งผลต่อภาพรวมตลาดทีวีในประเทศว่า “การต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมองหาทีวีที่สามารถเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทุกอย่างทั้งการเรียน การทำงาน การออกกำลังกาย ความบันเทิง รวมไปถึงยังคาดหวังในเรื่องของดีไซน์และความสวยงามในฐานะของแต่งบ้านชิ้นหนึ่ง ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ได้ถูกนำเสนอในทีวีระดับพรีเมียมของซัมซุงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายทีวีพรีเมียมของซัมซุง (QLED) ในปี 2020  เติบโตขึ้นถึง 35% แม้แนวโน้มมูลค่าตลาดทีวีในภาพรวมจะลดลงกว่า 5% อยู่ที่ประมาณ 2.65 หมื่นล้านบาท” 

 

นอกจากทีวีระดับพรีเมียมแล้ว กลุ่มสินค้าไฮเอนด์อย่างทีวี 8K ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งยอดขายของทีวีซัมซุง QLED 8K ปัจจุบันโตขึ้นกว่า 1.5 เท่าตัว เมื่อเทียบกับตอนเปิดตัวในตลาดเมื่อปี 2019 ทั้งนี้ เป็นผลจากการทำราคาได้ดีขึ้น การส่งเสริมการขายที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงตลาดที่เริ่มมีการเปิดรับเทคโนโลยี 8K มากขึ้น

 

เช่นเดียวกัน ทีวีจอใหญ่ยังคงมีความต้องการสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2020 ยอดขายทีวีขนาด 75 นิ้วขึ้นไป เติบโตขึ้นถึง 26% และช่วงไตรมาสที่ ของปีนี้ เติบโตขึ้นเกือบเท่าตัว (89%) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยหลายประการ ทั้งการอยู่บ้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอีเว้นท์กีฬาระดับโลกที่กำลังจะมาถึงในปีนี้ [5]

 

นอกจากนี้ ช่องทางออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดทีวีปี 2020 ซึ่งมีการล็อกดาวน์และมาตรการอื่นๆ โดยพบว่ามีการซื้อทีวีซัมซุงผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น 75% เมื่อเทียบกับปี 2019 คิดเป็นสัดส่วน 22% ของยอดขายทั้งหมด

 

นายสุวิณ กล่าวเสริมว่า “ด้วยปัจจัยต่างๆ ทั้งสถานการณ์โลก การจัดการแข่งขันกีฬาสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนชิปที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นตัวกระตุ้นดีมานด์ในตลาด จึงทำให้ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะตัดสินใจเลือกซื้อทีวี ทั้งนี้ มั่นใจว่าซัมซุงยังสามารถทำตลาดและส่งมอบทีวีให้กับผู้ใช้งานในประเทศไทยได้ตามแผน และยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาด โดยตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าพรีเมียมและไฮเอนด์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยมี Neo QLED ทั้ง 8K และ 4K เป็นตัวชูโรง ควบคู่ไปกับสินค้ากลุ่ม Lifestyle TV รุ่นต่างๆ”  

 



ปรากฎการณ์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งวงการทีวีกับนวัตกรรมขนาดเล็กที่ไม่ธรรมดา

ซัมซุงเปิดตัวไลน์อัพทีวี Neo QLED ทั้งในระดับแฟลกชิป 8K และในระดับความคมชัด 4K โดยหัวใจสำคัญของทีวี Neo QLED คือ เทคโนโลยี Quantum Mini LED ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าหลอด LED ปกติถึง 40 เท่า ทำให้สามารถจัดวางต้นกำเนิดแสดงได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ถูกควบคุมอย่างละเอียดแม่นยำด้วยนวัตกรรม Quantum Matrix พร้อมทั้งได้ขุมพลังจากชิปเซ็ตประมวลผล Neo Quantum Processor ทำให้สามารถถ่ายทอดประสบการณ์สมจริงใกล้เคียงอุดมคติของนิยามภาพและสีสัน นอกจากนี้ ซัมซุงได้ออกแบบระบบเสียงด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยเทคโนโลยี SpaceFit Sound ที่วิเคราะห์ภาพแวดล้อมของห้องและปรับเสียงของทีวีอย่างเหมาะสมได้โดยอัตโนมัติ และนวัตกรรม Object Tracking Sound Pro (OTS Pro) ทำให้เสียงเคลื่อนไหวไปตามภาพตรงตามตำแหน่งของต้นกำเนิดเสียง

 




นิยามใหม่ของฟังก์ชันทีวี ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ภายในบ้าน

Neo QLED คือดีไวซ์เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคที่ต้องทำงานหรือเรียนที่บ้านมากขึ้น โดยมาพร้อมกับสมาร์ทฟีเจอร์มากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน เพิ่มความโปรดักทีฟ และพักผ่อนหย่อนใจได้เต็มทีมากกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังง่ายขึ้นไปอีกขั้นด้วย Google Assistant ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยแล้ว ให้คนไทยควบคุมซัมซุงทีวีได้อย่างอิสระผ่านไมโครโฟนบนรีโมทคอนโทรล สำหรับใครที่ต้องทำงานหรือเรียนอยู่กับบ้าน Neo QLED จะเป็นคอมพิวเตอร์ให้คุณ ด้วยฟีเจอร์ PC on TV ที่มาพร้อมกับ Microsoft 365 บนทีวี ให้คุณสร้าง แก้ไขเอกสาร หรือเข้าถึงไฟล์บนเว็บเบราว์เซอร์ของทีวี นอกจากนี้ยังสามารถทำงานกับทีมได้เสมือนนั่งอยู่ด้วยกันในออฟฟิศ ด้วยวิดีโอคอลบนฟีเจอร์ Google Duo ที่รองรับการคอลถึง 32 คอลในครั้งเดียวแบบไม่จำกัดแพลตฟอร์ม ผ่านเว็บแคมที่รองรับหรือจะโทรจากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับทีวีก็ได้

 

ดีไซน์อันไร้ขีดจำกัด เพื่อประสบการภาพไร้ขอบเขต

ซัมซุงได้ยกระดับสุนทรียะแห่งการออกแบบ Neo QLED โดยพิจารณาตัดส่วนที่ไม่จำเป็นเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับการสัมผัสประสบการณ์การรับชมอย่างไร้ขอบเขต ดีไซน์แบบ Infinity Q Screen ที่เป็นเอกลักษณ์ของซัมซุงลดความหนาของกรอบทีวีลดจนแทบจะมองไม่เห็นด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและขั้นตอนการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยกรอบสแตนเลสสตีลของทีวี Neo QLED 8K มีความหนาเพียง 0.8 มิลลิเมตร จนทีวีดูเหมือนลอยอยู่อย่างอิสระ



ข้อมูลเพิ่มเติม

เทคโนโลยีที่ยั่งยืน เพื่อทุกการเข้าถึงของผู้ชมทุกแบบ

นอกจากซัมซุงจะมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับการใช้ชีวิต ซัมซุงยังให้ความสำคัญเรื่องการเข้าถึงเทคโนโลยีและการสร้างความยั่งยืนในสังคม ด้วยวิสัยทัศน์ “Better Normal for All” ทำให้เทคโนโลยีของซัมซุงถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจ รวมถึงในทีวี Neo QLED ด้วยเช่นกัน โดยสำหรับไลน์อัพทีวีซัมซุงดูแลทุกรายละเอียดในทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการใช้งาน รวมถึงการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ เพื่อปูแนวทางไปสู่เส้นทาง “Going Green” ในการดำเนินธุรกิจทีวีอย่างเต็มรูปแบบ

 

สายการผลิตทีวีของซัมซุงได้วางระบบลดการสร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์และลดการใช้พลังงาน รวมทั้งออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่สามารถนำมาประกอบเป็นเฟอร์นิเจอร์เล็กๆ ได้ โดยซัมซุงจะสามารถลดปริมาณขยะจากกล่องกระดาษลูกฟูกได้ถึง 200,000 ตันต่อปี นอกจากนี้ในปี 2564 ซัมซุงทีวีจะมาพร้อมกับรีโมทควบคุมโซลาร์เซลล์ซึ่งสร้างจากส่วนประกอบของพลาสติกจากขวดน้ำ ที่ใช้พลังงานแสงแทนถ่าน ทำให้ภายใน ปี ซัมซุงจะช่วยลดขยะจากถ่านขนาด AA ได้ถึง 99 ล้านก้อน โดยรีโมทควบคุมโซลาร์เซลล์ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 86 เปอร์เซ็นต์

 

ด้านการเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยี Neo QLED มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและการมองเห็นสามารถเข้าถึงการคอนเทนต์บนทีวีได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เป็นหัวใจสำคัญ เช่น ฟีเจอร์ Caption Moving ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนแคปชันไปไว้ส่วนไหนบนหน้าจอก็ได้ ทำให้สามารถอ่านแคปชันพร้อมดูภาพได้ในขณะเดียวกันได้อย่างต่อเนื่อง และฟีเจอร์ Sign Language Zoom ที่ขยายภาพของล่ามภาษามือได้ถึง 200 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ภายในปี 2565 ซัมซุงได้วางแผนขยายฟีเจอร์ข้อมูลเสียง (Voice Guide) เพิ่มเติมอีกด้วย


[1] ในปี 2564 สถาบันวิจัยด้านการตลาด Omdia ประกาศรับรองให้ซัมซุงเป็นแบรนด์ทีวีอันดับ 1 ของโลกด้วยส่วนแบ่งตลาด (Global TV Market Share) ที่ 31.8 เปอร์เซ็นต์ ประเมินจากรายได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2563


[2] พฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มในการใช้ทีวีเพื่อหลากหลายจุดประสงค์มากขึ้น


[3] พฤติกรรมการใช้งานทีวีที่เพิ่มขึ้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้สถานการณ์โควิดในหลายประเทศจะเริ่มผ่อนคลายลง


[4] ตลาดโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์เติมโตสูงสุดในรอบ 6 ปี


[5] ภาพรวมช่วงอีเวนท์ฟุตบอลที่ผ่านมา อ้างอิงจากปี 2017-2018 ตั้งแต่ May-Jul เติบโตขึ้น 36%

OnePlus จัดหนักกับเทศกาล 6.6 Greatest Celebration ลดสูงสุด 50% แจกของรางวัลเพียบ

 OnePlus 6.6 Greatest Celebration เทศกาลลดสุดแรงกลางปี จัดเต็มทุกโปร ลดสูงสุด 50% พร้อมคูปองลดเพิ่ม 500.- ส่งฟรีทุกไอเท็ม! ของรางวัลแจกเพียบ

 


ต้อนรับเทศกาล 6.6 Mid-Year Sale กลางปี OnePlus แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับเรือธงขนทัพโปรโมชันมากมายกับสมาร์ทโฟน, หูฟังและอุปกรณ์เสริม ลดสูงสุด 50% พร้อมคูปองส่วนลดเพิ่ม 500 บาท พิเศษ! ส่งฟรีทุกรายการทั้งสามช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ Shopee, Lazada และ JD Central พิเศษกว่าทุกทีเพราะส่งฟรีทุกไอเท็ม! และยังมีของรางวัลแจกอีกเพียบ ช้อปโปรโมชั่นสุดคุ้ม OnePlus 6.6 ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่

LAZADA >>> https://bit.ly/3hZPF72

 Shopee >>> https://bit.ly/3vHiFVb

JD Central >>> https://bit.ly/2SpSaoi

 

พบกับราคาพิเศษลดแรงสุดคุ้ม เฉพาะวันที่ 6 มิ.ย. 64 เวลาเที่ยงคืน - ตีสองเท่านั้น

         OnePlus Nord N10 Line Friends ราคาเพียง 7,999.- จากปกติ 9,990.-

         OnePlus Nord N10 5G Midnight Ice ราคาเพียง 7,499.- จากปกติ 8,990.-

         OnePlus 8T (12+256GB) ราคาเพียง 19,990.- จากปกติ 22,990.-

         OnePlus 8 (8+128GB) ราคาเพียง 14,990.- จากปกติ 16,990.-

         OnePlus N100 ราคาเพียง 4,799.- จากปกติ 5,299.-

         OnePlus Buds ราคาเพียง 2,690.- จากปกติ 2,999.-

         OnePlus Buds Z ราคาเพียง 1,850.- จากปกติ 1,990.-

 


Flash Voucher

       Flash Voucher คูปองลดเพิ่มทันที 1,000.-
เมื่อช้อป OnePus 8T 5G หรือ OnePlus 8 รุ่นใดก็ได้

       วันที่ 6 มิ.. เวลา 9.00 . เมื่อใส่โค้ด ONEPBTC10

       วันที่ 6 มิ.. เวลา 12.00 . เมื่อใส่โค้ด ONEPYT001

       วันที่ 7 มิ.. เวลา 9.00 . เมื่อใส่โค้ด ONEPDYC0

       วันที่ 8 มิ.. เวลา 9.00 น เมื่อใส่โค้ด ONEPIDC2

    ใช้ได้ตลอดถึงวันที่ 6 - 8 มิ.. 64

       All Day Voucher on Shopee

Ø คูปองลดราคาสุดแรง เก็บได้ตั้งแต่ 5 - 8 มิ.. 64 เวลา 02.00 . เป็นต้นไป และใช้ได้ตลอดถึงวันที่ 8 มิ.. 64

       ใช้โค้ด ONEPMY50 ลดเลย 500.- เมื่อช้อปครบ 8,000.- ในวันที่ 6 มิ.. 64 เวลา 02.01 .เป็นต้นไป ถึงวันที่ 8 มิ.. 64

       เฉพาะออเดอร์สมาร์ทโฟน และยกเว้น OnePlus N100

Ø คูปองพิเศษสำหรับ OnePlus N100 สามารถเก็บและใช้คูปองได้ตั้งแต่ 6 - 8 มิ.. 64

       ใช้โค้ด ONEPN100M ลดเลย 300.- เมื่อช้อปครบ 5,000.-

       เฉพาะ OnePlus N100 เท่านั้น

Ø คูปองพิเศษสำหรับหูฟังและ IOT สามารถเก็บและใช้คูปองได้ตั้งแต่ 6 - 8 มิ.. 64

       ใช้โค้ด ONEPA200 ลดเลย 10% สูงสุด 200.- ไม่มีขั้นต่ำการช้อป

       เฉพาะหูฟังและ IOT เท่านั้น

Ø คูปองมีจำนวนจำกัด

Ø เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด


       All Day Voucher on Lazada และ JDCentral

Ø คูปองลดราคาสุดแรง เก็บคูปองได้ตั้งแต่ 5 - 8 มิ.. 64 เวลา 00.00 . เป็นต้นไป และใช้ได้ตลอดถึงวันที่ 8 มิ.. 64

       ลดเลย 500.- เมื่อช้อปครบ 8,000.- (เฉพาะออเดอร์สมาร์ทโฟน ยกเว้น OnePlus N100)

       ใช้งานได้วันที่ 6  มิ.. 64 เวลา 02.01 . เป็นต้นไป ถึง 8 มิ.. 64

Ø คูปองพิเศษสำหรับ OnePlus N100 สามารถเก็บและใช้คูปองได้ตั้งแต่ 5 - 8 มิ.. 64

       ลดเลย 300.- เมื่อช้อปครบ 5,000.-

       เฉพาะ OnePlus N100 เท่านั้น

Ø คูปองพิเศษสำหรับหูฟังและ IOT สามารถเก็บและใช้คูปองได้ตั้งแต่ 6 - 8 มิ.. 64

       ลดเลย 10% สูงสุด 200.- ไม่มีขั้นต่ำการช้อป

       เฉพาะหูฟังและ IOT เท่านั้น

Ø คูปองมีจำนวนจำกัด

Ø เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

 


 

Special Time Special Price

       6.6 Beat the Clock ตั้งนาฬิกาปลุกให้ดี แล้วไปช้อปสุดมันส์กับสมาร์ทโฟนราคาเด็ด โดยสินค้าราคาพิเศษทั้งหมดจะมีในเวลาดังนี้

       6 มิ.. 64 เวลา 9.00 / 12.00 / 18.00 . - OnePlus Nord N10 Line Friends ราคาสุดพิเศษเพียง 4,990.- จาก 9,990.-

       6 มิ.. 64 เฉพาะใน Livestream - OnePlus 8T (12+256) จากมูลค่า ราคาสุดพิเศษเพียง 16,990.- จาก 22,990.- (เฉพาะ Shopee และ Lazada)

       ทุกช่วงเวลาจะมีสินค้าราคาพิเศษเพียงชิ้นเดียวต่อช่วงเท่านั้น

       เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

 

       Happy Gift รับเลยไม่ต้องลุ้น เพียงช้อปตามลำดับและเงื่อนไขที่กำหนด

       ทุกออเดอร์ที่มีรายการสมาร์ทโฟน 100 ลำดับออเดอร์แรก รับของแถมเพิ่มเลย!

       ลำดับที่ 1 - 50 รับเลย กระเป๋ากีฬา

       ลำดับที่ 51 - 100 รับเลย ลำโพงบลูทูธ

       50 ออเดอร์สั่งซื้อ OnePlus N100 รับเพิ่ม 3 in 1 Special Box Set

       30 ออเดอร์สั่งซื้อ OnePlus 8 (8+128GB) รับเพิ่ม เคส OnePlus 8 Nylon

       เฉพาะออเดอร์ที่ชำระเงินสำเร็จภายในวันที่ 6 - 8 มิ.. 64 เท่านั้น

       เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

 

#OnePlus #OnePlus6.6 #NeverSettle

 

เสียวหมี่เปิดตัว Redmi Note 10 5G & Redmi Note 10S พร้อม Mi Smart Band 6 ร่วมด้วย Mi TV P1 Series และ Mi TV Q1


เสียวหมี่เปิดตัว Redmi Note 105 G & Redmi Note 10S พร้อม Mi Smart Band 6 ร่วมด้วย Mi TV P1 Series และ Mi TV Q1

เสียวหมี่ ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศเปิดตัว Redmi Note 10G 5G สมาร์ทโฟน 5G ในราคาที่ดีที่สุด และ Redmi Note 10S ผจญภัยไปกับกล้อง 64 ล้านพิกเซลเพื่อไลฟ์สไตล์ที่สนุกมากขึ้นของ Gen Z พร้อมอินเทรนด์กับการดูแลสุขภาพด้วย Mi Smart Band 6 สมาร์ทแบนด์ที่ให้ผู้ใช้ล้ำกว่าใคร และไม่ลืมที่จะยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับด้วย Mi TV Q1 และ Mi TV P1 Series ตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัลแบบรอบด้าน

 

เติมเต็มไลน์อัพ Redmi Note 10 Series  

เติมเต็มไลน์อัพ Redmi Note 10 Series ด้วยสองคู่หู Redmi Note 10 5G: The Performance Racer สมาร์ทโฟน 5G ในราคาที่ดีที่สุด และ Redmi Note 10S: The 64MP Adventurer ผจญภัยไปกับกล้อง 64 ล้านพิกเซล ให้ Gen Z มีไลฟ์สไตล์ที่สนุกมากขึ้น

Redmi Note 10 5G: The Performance Racer สมาร์ทโฟน 5G ในราคาที่ดีที่สุด

Redmi Note 10 5G สมาร์ทโฟน 5G สำหรับคนไทยพร้อมสเปคเร็วแรงจัดเต็มในราคาที่เข้าถึงง่ายที่สุด ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 5G เพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกมถึงขีดสุด เทคโนโลยีประมวลผลแบบ 7nm และโมเด็ม 5G ในตัวช่วยยกระดับประสิทธิภาพไปอีกขั้น แต่ไม่เปลืองแบตเตอรี่ ให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับการใช้งานยาวนานต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวล Redmi Note 10 5G รองรับการแสตนด์บาย 5G ทั้งสองช่องซิม เหมาะกับการทำงานและกิจกรรมหลากหลาย




Redmi Note 10 5G มีหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ DotDisplay รองรับอัตราการรีเฟรชเรท 90Hz แสดงผลภาพได้สวยงามและใช้ได้อย่างลื่นไหล หน้าจอยังสามารถปรับอัตราการแสดงผลตามเนื้อหาต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น การรับชมวิดีโอที่ 30Hz หรือ 60Hz หรือใช้ Social Media และเล่นเกมที่ 90Hz ให้การใช้งานลื่นไหลและใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Redmi Note 10 5G ประกอบด้วยกล้องหลัง ตัว กล้องหลักความละเอียด 48MP กล้องมาโคร 2MP และกล้องวัดระยะชัดลึก 2MP พร้อมด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ Night Mode, Slow Motion และ Time-lapse Video ให้ผู้ใช้สร้างสรรค์ผลงานเสมือนมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย

Redmi Note 10 5G มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh (typ) รองรับการชาร์จเร็วที่กำลังไฟสูงสุด 18W สะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และรองรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องได้แม้ใช้งานหนัก Redmi Note 10 5G มี ขนาด ได้แก่ 4GB+128GB และ 8GB+128GB 

มีให้เลือก 
สี ได้แก่ Chrome Silver, Graphite Gray, Nighttime Blue และ Aurora Green

Redmi Note 10 5G วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมเป็นต้นไป โดยมีราคาและโปรโมชั่นดังนี้

·        รุ่นความจุ 8GB+128GB ราคา 6,999 บาท วางจำหน่ายที่ Mi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์

·        รุ่นความจุ 4GB+128GB ราคา 5,999 บาท  วางจำหน่ายที่ Mi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์

·        ผู้ที่ซื้อ Redmi Note 10 5G  ตั้งแต่ 27 พฤษภาคม – 30 มิถุนายนนี้ รับฟรี Note 10 5G Box Set ประกอบด้วย      Mi True Wireless Earbuds Basic 2 และ เสื้อยืด พร้อมประกันหน้าจอแตก ครั้ง ในระยะเวลา เดือน มูลค่ารวม 3,090 บาท

 

Redmi Note 10S The 64MP Adventurer ผจญภัยไปกับกล้อง 64 ล้านพิกเซล ให้ Gen Z มีไลฟ์สไตล์ที่สนุกมากขึ้น 

Redmi Note 10S บันทึกภาพและวีดิโออย่างไร้ที่ติจากกล้องหลัก ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP กล้องมาโครความละเอียด 2 MP ล้านพิกเซล กล้องถ่ายภาพชัดลึก ล้านพิกเซล และกล้องถ่ายภาพอัลตราไวลด์ ความละเอียด 8MP ให้มุมมองกว้างถึง 118 องศา สำหรับการถ่ายภาพหมู่หรือภาพทิวทัศน์ได้อย่างสะดวกสบาย ฟีเจอร์ Pro time-laspe แบบใหม่ที่สามารถทำงานได้ในขณะที่สภาพแสงไม่เป็นใจ ช่วยให้การถ่ายวีดิโอแบบ Time-laspe ในช่วงรอยต่อกลางวันและกลางคืนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมี Night Mode ที่สามารถปรับสีและแสงในการถ่ายภาพกลางคืนได้อีกด้วย 


Redmi Note 10S ผสมผสานทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยไว้ด้วยกัน ใช้หน้าจอ AMOLED แบบ DotDisplay ขนาด 6.43 นิ้ว ดูงดงามตื่นตา หน้าจอไร้ขอบอัตราส่วน 20:9 มีลำโพงคู่ที่ด้านบนและด้านล่าง ให้ประสบการณ์ด้านเสียงแบบเต็มเปี่ยม แถบสแกนลายนิ้วมือด้านของของเครื่อง ดูกลมกลืนและใช้งานได้อย่างง่ายดาย กระจก Corning® Gorilla® Glass ด้านบนทนทานต่อแรงขีดข่วนและการตกกระแทก กันละออกน้ำที่ระดับ IP53 ให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ

Redmi Note 10S ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 เพื่อประสิทธิภาพการทำงาน การเล่นเกมและการประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้น มีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นก่อนหน้า 31% รองรับการเล่นเกมทุกประเภท แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน รองรับการชาร์จเร็วที่ 33W 

Redmi Note 10S ความจุ 8GB+128GB มีให้เลือก สี ได้แก่ Onyx Gray, Pebble White และ Ocean Blue ราคา 7,499 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมเป็นต้นไป ที่ Mi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์

 

Mi Smart Band 6 สมาร์ทแบนด์ที่ให้ผู้ใช้ล้ำกว่าใคร

Mi Smart Band 6 ให้ผู้ใช้สามารถสังเกตสุขภาพตัวเองได้อย่างงายดายทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยฟีเจอร์มากมาย อาทิ ฟังก์ชั่นการวัดค่าอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) ในขณะที่ออกกำลังกาย (Intense exercise) เซนเซอร์ PPG ช่วยวัดอัตราการเต้นของหัวใจอย่างแม่นยำ ที่ทำงานร่วมกับฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น การตรวจจับความเครียด และการวัดรอบประจำเดือน ทั้งยังสามารถตรวจจับคุณภาพของการนอนหลับโดยเฉพาะให้ผู้ใช้สังเกตคุณภาพของการนอน การหายใจขณะนอนหลับและวงจรในการหลับลึก (REM) 

Mi Smart Band 6 มีฟังก์ชั่นการออกกำลังกายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายอย่างจริงจัง ด้วยโหมดการออกกำลังกายที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง เท่า ครบครันด้วยการออกกำลังกายกว่า 30 ประเภท ตั้งแต่การออกกำลังกายแบบยืดเหยียดหรือการออกกำลังกายแบบ HIIT หรือแม้แต่การออกกำลังกายจริงจังอย่างบาสเกตบอล ต่อยมวย และยิมนาสติก หรือแม้แต่กิจกรรมสนุกๆ อย่างซุมบ้าหรือ Street Dancing นอกจากนี้ ยังตรวจจับการออกกำลังกาย 6 ประเภทโดยอัตโนมัติ ได้แก่ วิ่งเอาท์ดอร์เดินวิ่งลู่เครื่อง Indoor Rowing, เครื่อง Elliptical Training และ ปั่นจักรยาน  


Mi Smart Band 6 มีหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 1.56 นิ้ว ให้ความคมชัดกว่า 326PPI และมีขนาดหน้าจอแสดงผลได้มากกว่าราว 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน สามารถแสดงผลการเตือนต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้สามารถเลือกเปลี่ยนดีไซน์หน้าจอได้ถึง 60 แบบและยังสามารถปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์ของแต่ละคนหรือการแต่งกายในแต่ละวันอีกด้วย

Mi Smart Band 6 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 125mAh สามารถใช้ได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 14 วันโดยที่ไม่ต้องชาร์จ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติกันน้ำได้ในระดับ 5 ATM หรือแรงดันน้ำที่ระดับ 50 เมตร ผู้ใช้สามารถสวมใส่ได้ในขณะที่ว่ายน้ำ ดำน้ำตื้นและขณะอาบน้ำอย่างไร้กังวล

Mi Smart Band 6 ราคา 1,090 บาท วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมเป็นต้นไปที่ Mi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์

 






เติมเต็มระบบความบันเทิงภายในบ้านด้วยสมาร์ททีวีจากเสียวหมี่ Mi TV P1 Series และ Mi TV Q1 

Mi TV P1 สมาร์ททีวีรุ่นใหม่ล่าสุดจากเสียวหมี่ พร้อมมอบประสบการณ์ความบันเทิงสู่ทุกคนในราคาจับต้องได้ Mi TV P1 รุ่นขนาดหน้าจอ 43 นิ้ว และ 55 นิ้ว ใช้หน้าจอแบบ Limitless ไร้ขอบเพื่อให้ได้หน้าจอกว้างที่สุด รับชมได้อย่างเต็มตาและเสริมดีไซน์ให้เพรียวบาง มีสไตล์ เข้ากับองค์ประกอบต่างๆ ในบ้านได้อย่างแนบเนียน เสมือนเป็นอีกเฟอร์นิเจอร์ชั้นหนึ่งของบ้าน จอ LED แบบ 60Hz ให้มุมมองภาพกว้างถึง 178 องศา จึงรับชมได้อย่างคมชัดไม่ว่าจากบริเวณใดของห้อง ให้ความละเอียดภาพสูงสุดที่ 4K UHD ระบบสี 85% NTSC ให้สีที่แม่นยำถึง 1.07 พันล้านเฉด ยกระดับประสบการณ์การรับชมไปอีกขั้น รองรับ Dolby Vision® คุณสมบัติ HDR10+ ในรุ่นขนาดหน้าจอ 55 นิ้ว และคุณสมบัติ HDR ในรุ่นขนาดหน้าจอ 43 นิ้ว เพื่อให้ภาพมีความต่างสีชัดเจน สวยสดและดูเสมือนจริงมากขึ้น พร้อมเทคโนโลยีที่สามารถแสดงผลสีได้มากกว่าและลึกกว่าทีวีปกติ เทคโนโลยี MEMC เพื่อการแสดงผลภาพที่รวดเร็วและราบรื่น มีลำโพงคู่ขนาดใหญ่ 10Wรองรับ Dolby Audio™ และ DTS-HD®

Mi TV P1 ทุกรุ่นขนาดหน้าจอใช้ระบบปฎิบัติการ Android TV™ และติดตั้งแอปพลิเคชั่นยอดนิยมอย่าง Netflix, Amazon Prime Video, YouTube ไว้เรียบร้อยแล้ว และสามารถเข้าถึงภาพยนตร์กว่า 700,000 เรื่องและแอปต่างๆ ได้มากกว่า 5,000 แอปจาก Google Play Store นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถนำหน้าจอสมาร์ทโฟนหรือแทบเล็ตขึ้นจอทีวีผ่าน Chromecast หรือ Miracast  ได้อีกด้วย Mi TV P1 ทุกรุ่นขนาดหน้าจอยังมาพร้อมกับ Google Assistant  ผู้ใช้จึงสามารถสั่งควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่นๆ ในอีโคซิสเต็มของเสียวหมี่ได้ เช่น เครื่องฟอกอากาศ พัดลม ไฟ เครื่องดูดฝุ่น Mi TV P1 รุ่นขนาดหน้าจอ 55 นิ้ว และ 43 นิ้ว ยังมีไมโครโฟนที่ตัวเครื่อง จึงสามารถสั่งการด้วยเสียงได้ทันที โดยไม่ต้องถือรีโมทคอนโทรล เสมือนมี Smart Speaker อีกตัวหนึ่ง

Mi TV P1 ทุกรุ่นขนาดหน้าจอมาพร้อมกับรีโมท Bluetooth Remote Control รองรับ 360 องศา เมื่อเชื่อมต่อกับ Bluetooth แล้วสามารถควบคุมทีวีได้จากทุกทิศทางไม่จำเป็นต้องเอารีโมทไปจ่อกับเซ็นเซอร์อีกต่อไป หมดปัญหากดรีโมทไม่ติด รองรับการเชื่อมต่อด้วย WiFi 5, Bluetooth, USB และช่อง HDMI  

นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังได้เปิดตัว Mi TV Q1 ขนาด 75 นิ้ว สมาร์ททีวีระดับพรีเมียม หน้าจอ QLED 4K เทคโนโลยี Quantum Dot ให้สีสันชัดสมจริง ด้วยระบบสี NTSC 100% ให้สีที่แม่นยำถึง 1.07 พันล้านเฉด ยกระดับประสบการณ์การรับชมไปอีกขั้นด้วยระบบภาพ Dolby Vision®️ ความละเอียดระดับ HDR10+ ระบบเสียงสเตอริโอด้วยลำโพง 30W มากถึง ตัวและยังรองรับระบบเสียงแบบ Dolby Audio™ และ DTS-HD® อีกด้วย Mi TV Q1 มาพร้อมดีไซน์เพรียวบาง  ด้านนอกเคลือบแบบเมทัลลิค จอภาพไร้ขอบให้มุมมองการรับชมเต็มตา 178 องศา Mi TV Q1 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android TVTM 10 ที่ สามารถเข้าถึงภาพยนตร์กว่า 700,000 เรื่องและแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้มากกว่า 5,000 แอปจาก Google Play Store รวมถึงแอปยอดนิยมอย่าง Netflix, YouTube และ Amazon Prime VDO ที่ติดตั้งมาพร้อมกับทีวี

Mi TV P1 Series ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มีขนาดหน้าจอให้เลือก รุ่น คือ รุ่นขนาด 55, 43 และ 32 นิ้ว วางจำหน่ายที่ Lazada, JD Central, Shopee, และร้าน Mi Stores ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ มิถุนายน โดยมีราคาและโปรโมชั่น ดังนี้ 

·        ขนาด 55 นิ้ว ราคา 15,990 บาท สำหรับผู้ที่ซื้อระหว่าง 6 – 13 มิถุนายนนี้ ราคาพิเศษ 13,990 บาท พร้อมรับ Mi Smart Band 6 มูลค่า 1,090 บาท (ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด)

·        ขนาด 43 นิ้ว ราคา 11,490 บาท สำหรับผู้ที่ซื้อระหว่าง 6 – 13 มิถุนายนนี้ ราคาพิเศษ 9,990 บาท

·        ขนาด 32 นิ้ว ราคา 6,990 บาท สำหรับผู้ที่ซื้อระหว่าง 6 – 13 มิถุนายนนี้ ราคาพิเศษ 5,990 บาท

Mi TV Q1 ขนาดหน้าจอ 75 นิ้ว วางจำหน่ายในราคา 44,990 บาท พิเศษ สำหรับผู้ที่ซื้อตั้งแต่ 6 – 13 มิถุนายนนี้ รับฟรี Mi Robot Vacuum Mop P มูลค่า 12,999 บาท (ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด)